ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อ่านอรรถกถา 26 / 1อ่านอรรถกถา 26 / 23อรรถกถา เล่มที่ 26 ข้อ 24อ่านอรรถกถา 26 / 25อ่านอรรถกถา 26 / 474
อรรถกถา ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ จิตตลดาวรรคที่ ๒
๗. อุโบสถวิมาน

               อรรถกถาอุโบสถาวิมาน               
               อุโบสถาวิมาน มีคาถาว่า อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน ดังนี้เป็นต้น.
               อุโบสถาวิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร?
               อัตถุปปัตติเหตุเกิดเรื่องในข้อนี้มีแปลกกันเท่านี้ว่า อุบาสิกาคนหนึ่งชื่ออุโบสถาในเมืองสาเกต.
               คำที่เหลือเช่นเดียวกับวิมานติดๆ กัน.
               ด้วยเหตุนั้น พระสังคีติกาจารย์จึงกล่าวว่า ท่านพระมหาโมคคัลลานะถามว่า
               ดูก่อนเทพธิดา ท่านมีวรรณะงาม ฯลฯ รัศมีของท่านจึงส่องสว่างไปทุกทิศ.
               เทพธิดานั้นถูกพระโมคคัลลานเถระถามแล้วดีใจ ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า
                         ดีฉันเป็นอุบาสิกาอยู่ในเมืองสาเกต ประชาชน
               รู้จักดีฉันว่า อุโบสถา เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศรัทธาและ
               ศีล ยินดีแล้วในจำแนกทานเสมอ มีจิตผ่องใส ได้
               ถวายผ้านุ่งห่ม อาหาร เสนาสนะ และเครื่องประทีป
               ในพระอริยะผู้ปฏิบัติตรง
                         ดีฉันได้เข้ารักษาอุโบสถศีล อันประกอบด้วยองค์
               ๘ ประการ ตลอดวัน ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำและวัน ๘ ค่ำแห่ง
               ปักษ์ และตลอดปาฏิหาริยปักษ์ด้วย เป็นผู้สำรวมด้วยดี
               ในศีลเสมอ เป็นผู้งดเว้นจากปาณาติบาต เว้นห่างไกล
               จากอทินนาทาน จากการประพฤติผิดในกาม สำรวม
               จากมุสาวาท และจากการดื่มน้ำเมา
                         ดีฉันเป็นผู้ยินดีในสิกขาบททั้ง ๕ มีปัญญา
               เฉลียวฉลาดในอริยสัจ เป็นอุบาสิกาของพระโคดมผู้มี
               พระจักษุและพระเกียรติยศ เพราะบุญกรรมนั้น ดีฉัน
               จึงเป็นผู้มีรัศมีเช่นนี้ ฯลฯ และรัศมีของดีฉันจึงสว่าง
               ไสวไปทุกทิศ.

               เทพธิดานั้น เมื่อจะแสดงโทษอย่างหนึ่งของตน จึงได้กล่าวคาถา ๗ คาถาอีกว่า
                         ฉันทะความพอใจเกิดขึ้นแก่ดีฉัน เพราะได้ฟัง
               เรื่องสวนนันทนวันอยู่เนืองๆ ดีฉันจึงตั้งจิตไปในสวน
               นันทนวันนั้น ก็เข้าถึงสวนนันทนวันได้จริงๆ ดีฉัน
               มิได้ทำตามพระวาจาของพระศาสดาพุทธเจ้าเผ่าพันธุ์
               แห่งพระอาทิตย์ ดีฉันนั้นตั้งจิตใจไว้ในภพอันเลวจึง
               ร้อนใจในภายหลัง.

               ในบทเหล่านั้น บาทคาถาว่า อุโปสถาติ มํ อญฺญึสุ ความว่า คนทั้งหลายรู้จักดีฉันโดยชื่อนี้ว่า อุโบสถา.
               บทว่า สาเกตายํ แปลว่า ในเมืองสาเกต.
               บทว่า อภิกฺขณํ แปลว่า เนืองๆ.
               บทว่า นนฺทนํ สุตฺวา ความว่า เพราะได้ทราบทิพยสมบัติมีอย่างต่างๆ ในภพดาวดึงส์นั้นว่า ชื่อว่านันทนวัน ในภพดาวดึงส์เป็นเช่นนี้ และเป็นเช่นนี้.
               บทว่า ฉนฺโท ได้แก่ ความพอใจในกุศลเป็นเหตุแห่งบุญกรรมที่จะให้บังเกิดในภพดาวดึงส์นั้น หรือความพอใจด้วยอำนาจตัณหาอันเป็นความปรารถนาที่จะเกิดในภพดาวดึงส์นั้น.
               บทว่า อุปปชฺชถ แปลว่า เกิดขึ้นแล้ว.
               บทว่า ตตฺถ ได้แก่ ในภพดาวดึงส์. จริงอยู่ เทพธิดากล่าวถึงเทวโลกนั้น แม้ด้วยการอ้างถึงสวนนันทนวัน.
               บทว่า อุปปนฺนามหิ ความว่า ดีฉันเกิดแล้วคือได้บังเกิดแล้ว.
               บาทคาถาว่า นากาสึ สตถุ วจนํ ความว่า ดีฉันไม่ได้ทำตามพระดำรัสที่พระศาสดาได้ตรัสไว้โดยนัยเป็นต้นว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราสรรเสริญภพแม้มีประมาณน้อย ก็หามิได้. อธิบายว่า ไม่ละฉันทราคะในภพทั้งหลาย.
               พระอาทิตย์เป็นโคดมโคตร แม้พระผู้มีพระภาคเจ้าก็เป็นโคดมโคตร เพราะเหตุนั้น เทพธิดาจึงกล่าวว่า พุทธสสาทิจจพนธุโน เพราะทรงมีพระโคตร.
               อีกอย่างหนึ่ง เผ่าพันธุ์ของพระอาทิตย์ ชื่อว่า อาทิจจพนธุ คือพระผู้มีพระภาคเจ้า.
               อีกอย่างหนึ่ง เผ่าพันธุ์ชื่อว่าพระอาทิตย์ เพราะทรงอาศัยพระอาทิตย์นั้นแล้วเกิดในอริยชาติ หรือชื่อว่าอาทิจจพันธุ์ เพราะทรงเป็นบุตรเกิดแต่อกของพระอาทิตย์นั้น คือพระผู้มีพระภาคเจ้า.
               สมจริงดังที่ท่านกล่าวไว้แล้วว่า
                                   พระอาทิตย์ใดส่องแสงสว่าง กำจัดความมืด
                         ในยามมืด รุ่งโรจน์เป็นมณฑลดวงกลม มีอำนาจ
                         ความร้อนสูง ดูก่อนราหู ท่านอย่ากลืนพระอาทิตย์
                         นั้นซึ่งกำลังโคจรอยู่ในอากาศเลย ดูก่อนราหู ท่าน
                         จงปล่อยพระอาทิตย์ประชา [บุตร] ของเราเถิด.

               บทว่า หีเน คือ ต่ำทราม เทพธิดากล่าวถึงความยินดีในภพของตน.
               บทว่า สามหิ ตัดบทเป็น สา อมหิ แปลว่า ดีฉันนั้น.
               เมื่อเทพธิดานั้นประกาศความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นอันความยินดีในภพสร้างไว้อย่างนี้แล้ว พระเถระเพื่อจะปลอบใจด้วยมุข คือชี้แจงอายุของภพที่กำหนดไว้ว่า การตั้งอยู่ในอัตภาพมนุษย์ต่อไปแล้วก้าวล่วงทุกข์ในวัฏฏะเสีย จะทำก็ทำได้ง่าย และว่าความเป็นผู้สิ้นอาสวะทุกประการ มีอานิสงส์มาก จึงกล่าวคาถาว่า
               ดูก่อนอุโบสถาเทพธิดา ท่านจะอยู่ในวิมานนี้นานเท่าไร ท่านถูกอาตมาถามแล้วโปรดบอกด้วย ถ้าท่านทราบอายุ.

               นางเทพธิดานั้นตอบว่า
                                   ข้าแต่ท่านมหาปราชญ์ ดีฉันดำรงอยู่ในวิมานนี้
                         ประมาณสามโกฏิหกหมื่นปี จุติจากที่นี้แล้วจักไปบังเกิด
                         เป็นมนุษย์.

               พระมหาโมคคัลลานเถระทำนางเทพธิดานั้นให้อาจหาญด้วยคาถานี้อีกว่า
               ดูก่อนอุโบสถาเทพธิดา ท่านอย่ากลัวเลย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงพยากรณ์ไว้แล้วว่า ท่านบรรลุคุณพิเศษเป็นโสดาบัน ทุคติ ท่านก็ละได้แล้วนี่.

               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า กีวจิรํ แปลว่า นานเท่าไร.
               บทว่า อิธ คือ ในเทวโลกนี้ หรือในวิมานนี้.
               บทว่า อายุโน แปลว่า อายุ.
               บทว่า โน เป็นเพียงนิบาต. หรือรู้ว่าอายุนานหรือไม่นาน.
               อนึ่ง อธิบายว่า ถ้าทราบอายุ.
               ด้วยบทว่า มหามุนิ เทพธิดาเรียกพระเถระ.
               บาทคาถาว่า มา ตวํ อุโปสเถ ภายิ ความว่า ดูก่อนอุโบสถาผู้เจริญ ท่านอย่ากลัวเลย เพราะอะไร? เพราะท่านถูกพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงพยากรณ์ไว้แล้ว.
               พยากรณ์ว่าอย่างไร. พยากรณ์ว่าบรรลุคุณวิเศษเป็นโสดาบัน. ท่านถึงคือบรรลุคุณวิเศษที่เข้าใจว่าเป็นมรรคผล เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่าวิเสสยิ เพราะถึงคุณวิเศษแม้นี้ว่า ทุคติแม้ทั้งปวง ท่านละได้แล้ว.
               คำที่เหลือเหมือนนัยที่กล่าวมาแล้ว.

               จบอรรถกถาอุโบสถาวิมาน               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ จิตตลดาวรรคที่ ๒ ๗. อุโบสถวิมาน จบ.
อ่านอรรถกถา 26 / 1อ่านอรรถกถา 26 / 23อรรถกถา เล่มที่ 26 ข้อ 24อ่านอรรถกถา 26 / 25อ่านอรรถกถา 26 / 474
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=26&A=717&Z=748
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=30&A=2715
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=30&A=2715
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๒๑  มกราคม  พ.ศ.  ๒๕๕๐
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :