ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อ่านอรรถกถา 26 / 1อ่านอรรถกถา 26 / 220อรรถกถา เล่มที่ 26 ข้อ 221อ่านอรรถกถา 26 / 222อ่านอรรถกถา 26 / 474
อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรคาถา เอกกนิบาต วรรคที่ ๙
๔. นีตเถรคาถา

               อรรถกถานีตเถรคาถา               
               คาถาของท่านพระนีตเถระ เริ่มต้นว่า สพฺพรตฺตึ สุปิตฺวาน.
               เรื่องราวของท่านเป็นอย่างไร?
               ได้ยินว่า พระเถระนี้เป็นพราหมณ์ชื่อว่าสุนันทะ ในกาลของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าปทุมุตตระ สอนมนต์กะพราหมณ์หลายร้อยคน บูชายัญชื่อว่าวาชเปยฺยะ.
               พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะทรงอนุเคราะห์พราหมณ์นั้น เสด็จไปสู่ที่บูชายัญ แล้วเสด็จจงกรมในอากาศ. พราหมณ์เห็นพระศาสดาแล้วมีใจเลื่อมใส ให้ศิษย์ทั้งหลายนำดอกไม้มาแล้ว โยนขึ้นไปในอากาศ ทำการบูชาแล้ว. ด้วยพุทธานุภาพ ที่นั้นและพระนครทั้งสิ้นได้เป็นประดุจถูกคลุมไว้ด้วยแผ่นผ้า คือดอกไม้.
               มหาชนต่างเสวยปีติโสมนัสอย่างโอฬารในพระศาสดา.
               ด้วยกุศลกรรมนั้น สุนันทพราหมณ์ท่องเที่ยวอยู่ในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เกิดเป็นบุตรของพราหมณ์คนหนึ่ง ในพระนครสาวัตถี ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้มีนามว่า นีตะ.
               เขาถึงความเป็นผู้รู้แล้ว คิดว่า สมณศากยบุตรเหล่านี้มีศีลสะอาด มีมรรยาทงาม บริโภคโภชนะอย่างดี อยู่ในเสนาสนะที่อับลม เราอาจบวชแล้วอยู่ในเสนาสนะเหล่านี้ได้โดยสบายดังนี้ จึงบวชด้วยปรารถนาความสบาย เรียนกรรมฐานในสำนักของพระศาสดา แล้วมนสิการกรรมฐานได้ ๒-๓ วันเท่านั้นก็ละทิ้งกรรมฐานนั้น ฉันเต็มตามต้องการจนร่างกายไม่เรียกร้องหาอาหาร ยินดีในการคลุกคลีด้วยหมู่วันยังค่ำ ยังเวลาให้ล่วงไปด้วยการสนทนากันด้วยเรื่องไร้สาระ แม้ในเวลากลางคืนก็ถูกถีนมิทธะครอบงำ นอนหลับคืนยังรุ่ง.
               พระศาสดาทรงตรวจดูความสุกงอมแห่งเหตุของเธอแล้ว เมื่อจะทรงประทานโอวาท ได้ตรัสพระคาถาว่า
                         คนโง่เขลา มัวแต่นอนหลับตลอดทั้งคืน และ
                         คลุกคลีอยู่ในหมู่ชนตลอดวันยังค่ำ เมื่อไรจัก
                         ทำที่สุดแห่งทุกข์ได้เล่า.

               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สพฺพรตฺตึ ได้แก่ ตลอดคืนทั้งสิ้น.
               บทว่า สุปิตฺวาน แปลว่า นอนหลับแล้ว. อธิบายว่า ไม่ขวนขวายความตื่น ที่ท่านกล่าวไว้โดยนัยมีอาทิว่า ชำระจิตให้บริสุทธิ์จากอาวรณียธรรมโดยการจงกรม โดยการนั่ง ตลอดปฐมยามแห่งราตรี ดังนี้แล้วก้าวลงสู่ความหลับ แม้ในยามทั้ง ๓ แห่งราตรีทั้งสิ้น.
               บทว่า ทิวา แปลว่า ทั้งวัน. อธิบายว่า ตลอดส่วนแห่งวันทั้งสิ้น.
               บทว่า สงฺคณิเก ความว่า การมั่วสุมกับบุคคลผู้มากไปด้วยความมั่นคงทางกาย ด้วยการสนทนากันด้วยเรื่องไร้สาระ ชื่อว่าการคลุกคลี ผู้ที่ยินดีคืออภิรมย์ในการคลุกคลีนั้น ได้แก่ผู้ที่ยังไม่ขาดความพอใจในการคลุกคลีนั้น ท่านกล่าวว่ายินดีแล้วในการคลุกคลี.
               บาลีว่า สงฺคณิการโต ดังนี้ก็มี.
               บทว่า กุทาสฺสุ นาม เท่ากับ กุทา นาม.
               บทว่า อสฺสุ เป็นนิบาต. อธิบายว่า ได้แก่ ในกาลชื่อไร?.
               บทว่า ทุมฺเมโธ ได้แก่ คนไม่มีปัญญา.
               บทว่า ทุกฺขสฺส ได้แก่ ทุกข์ในวัฏฏะ.
               บทว่า อนฺตํ แปลว่า ซึ่งที่สุด. อธิบายว่า เมื่อไรจักกระทำการไม่เข้าไปยึดมั่นได้ โดยส่วนเดียวเล่า คือการกระทำที่สุดแห่งทุกข์ ย่อมไม่มีแก่คนเช่นนี้.
               บาลีว่า ทุมฺเมธ ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสิ ดังนี้ก็มี.
               ก็เมื่อพระศาสดาตรัสพระคาถาอย่างนี้แล้ว พระเถระเกิดความสลดใจ เริ่มตั้งวิปัสสนา บรรลุพระอรหัตต่อกาลไม่นานนัก.
               สมดังคาถาประพันธ์ที่ท่านกล่าวไว้ในอปทานว่า๑-
               เราเป็นพราหมณ์มีนามว่าสุนันทะ ผู้รู้จบมนต์ เป็นผู้คงแก่เรียน เป็นผู้ควรขอ ได้บูชายัญชื่อว่าวาชเปยยะ
               ในกาลนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ ผู้ทรงรู้แจ้งโลก ผู้เลิศ เป็นพระฤาษี ประกอบด้วยพระกรุณา ทรงเอ็นดูหมู่ชน เสด็จจงกรมอยู่ในอากาศ. พระสัพพัญญูสัมพุทธเจ้าผู้เป็นนายกของโลก เสด็จจงกรมแล้ว ทรงแผ่เมตตาไปในบรรดาสัตว์หาประมาณมิได้ ไม่มีอุปธิ.
               พราหมณ์ผู้รู้จบมนต์เด็ดดอกไม้ที่ขั้วแล้ว ประชุมศิษย์ทั้งหมด ให้ศิษย์ช่วยกันโยนดอกไม้ขึ้นไปในอากาศ ในกาลนั้น หลังคาดอกไม้ได้มีตลอดทั่วพระนครไม่หายไปตลอด ๗ วัน ด้วยพุทธานุภาพ.
               ด้วยกุศลมูลนั้น พราหมณ์ผู้รู้จบมนต์ได้เสวยสมบัติแล้ว กำหนดรู้อาสวะทั้งปวง ข้ามโลก ๓ และตัณหาได้แล้ว. ในกัปที่ ๑,๑๐๐ แต่ภัทรกัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิจอมกษัตริย์ ๓๕ พระองค์มีพระนามเหมือนกันว่าอัมพรังสสะ มีพลมาก. เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ฯลฯ คำสอนของพระพุทธเจ้า เรากระทำสำเร็จแล้ว ดังนี้.
____________________________
๑- ขุ. อ. เล่ม ๓๒/ข้อ ๑๓๖

               ก็พระเถระ ครั้นบรรลุพระอรหัตแล้ว เมื่อพยากรณ์พระอรหัตผล ก็ได้กล่าวย้ำซ้ำพระคาถานั้นแล.

               จบอรรถกถานีตเถรคาถา               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรคาถา เอกกนิบาต วรรคที่ ๙ ๔. นีตเถรคาถา จบ.
อ่านอรรถกถา 26 / 1อ่านอรรถกถา 26 / 220อรรถกถา เล่มที่ 26 ข้อ 221อ่านอรรถกถา 26 / 222อ่านอรรถกถา 26 / 474
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=26&A=5466&Z=5469
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=32&A=6243
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=32&A=6243
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๒๓  มกราคม  พ.ศ.  ๒๕๕๐
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :