บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
ลขุมาวิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร? เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ กรุงพาราณสี. พาราณสีนครมีประตูอยู่แห่งหนึ่งชื่อว่าประตูบ้านชาวประมง แม้หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ไม่ห่างไกลประตูนั้น ก็รู้จักกันว่าประตูบ้านชาวประมง ที่ประตูบ้านนั้นมีหญิงคนหนึ่งชื่อลขุมา สมบูรณ์ด้วยศรัทธาและความรู้ เห็นภิกษุทั้งหลายเข้าไปทางประตูนั้น ไหว้แล้วนิมนต์ไปเรือนของตน ถวายภิกขาทัพพีหนึ่ง เพราะความคุ้นเคยนั้นแล เมื่อศรัทธาเพิ่มพูนขึ้นจึงให้สร้างโรงฉันหลังหนึ่ง นำอาสนะเข้าไปถวายภิกษุทั้งหลายที่เข้าไปในโรงฉันนั้น ตั้งน้ำฉันน้ำใช้ไว้ ได้ถวายข้าวสุก ขนมกุมมาส ผักดองซึ่งมีอยู่ในเรือนแก่ภิกษุทั้งหลาย. นางฟังธรรมในสำนักของภิกษุทั้งหลาย ตั้งอยู่ในสรณะและศีล เป็นผู้มั่นคง เรียนวิปัสสนากัมมัฏฐาน เมื่อขวนขวายวิปัสสนาอยู่ ไม่นานนักก็ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล เพราะตนถึงพร้อมด้วยอุปนิสัย. เวลาต่อมานางทำกาละตายไปบังเกิดในมหติวิมานภพดาวดึงส์ มีนางเทพอัปสรพันหนึ่งเป็นบริวาร เสวยทิพยสมบัติอยู่ในวิมานนั้นบันเทิงอยู่. ท่านพระมหาโมคคัลลานะเที่ยวเทวจาริกไปได้ถามว่า ดูก่อนเทพธิดา ท่านผู้มีรัศมีงามสว่างไสวไปทุกทิศ ประดุจดาวประกายพรึก เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีวรรณะเช่นนี้ และรัศมีจึงสว่างไสวไปทุกทิศ. เทพธิดานั้นถูกพระโมคคัลลานะถามแล้วดีใจ ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า บ้านของดีฉันตั้งอยู่ใกล้ทางออกประตูบ้านชาวประมง ดีฉันมีใจเลื่อมใสในท่านผู้ตรง ถวายข้าวสุก ขนมกุมมาส ผัก ดองและน้ำส้ม เจือรสเค็มแก่พระสาวกทั้งหลาย ผู้แสวงหาคุณ อันใหญ่ยิ่ง ซึ่งท่องเที่ยวอยู่ที่ประตูบ้านชาวประมง ประการหนึ่ง ดีฉันได้เข้ารักษาอุโบสถศีล อันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ ตลอดวัน ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ ๘ ค่ำแห่งปักษ์ และตลอดปาฏิหาริย ปักข์ [วันรับ-ส่ง] เป็นผู้สังวรด้วยดีในศีลทุกเมื่อ เป็นผู้สำรวม และจำแนกทาน จึงได้ครอบครองวิมานนี้ ดีฉันเว้นจากปาณาติบาต เว้นจากถือเอาสิ่งของของผู้อื่น ด้วยไถยจิต จากการประพฤติล่วงละเมิดในกาม สำรวมจาก มุสาวาทและห่างไกลจากการดื่มน้ำเมา เป็นผู้ยินดีในเบญจศีล ฉลาดในอริยสัจ เป็นอุบาสิกาของพระโคดมผู้มีพระจักษุ และมี พระเกียรติยศ เพราะบุญนั้นดีฉันจึงมีวรรณะเช่นนี้ เพราะบุญ กรรมนั้น ฯลฯ รัศมีของดีฉันจึงสว่างไสวไปทุกทิศ. ประการหนึ่ง ขอท่านผู้เจริญพึงถวายบังคมพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเศียรเกล้า แล้วทูลตามคำของดีฉันว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อุบาสิกาชื่อลขุมา ถวายบังคมพระบาททั้งคู่ของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเศียรเกล้า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ก็การที่พระผู้มีพระภาคเจ้าพึงทรงพยากรณ์ดีฉันในสามัญผลอย่างใดอย่างหนึ่ง นั่นไม่น่าอัศจรรย์ เพราะพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์ดีฉันในสกทาคามิผลแล้ว. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า เกวฏฺฏทฺวารา นิกฺขมฺม ความว่า ใกล้ที่ออกไปจากประตูบ้านชาวประมง. บทว่า ฑากํ ได้แก่ ผักดองและกับมีกะเพราเป็นต้น. บทว่า โลณโสวีรกํ ความว่า น้ำปานะอย่างหนึ่งที่เขาปรุงพร้อมด้วยเครื่องปรุงมากอย่างนั้นมีข้าวเปลือกเป็นต้น. บางพวกเรียกน้ำข้าวตังว่า น้ำเกลือก็มี. เวลาจบการถามและการตอบ นางบรรลุสกทาคามิผลด้วยธรรมเทศนาของพระเถระ. คำที่เหลือเหมือนนัยที่กล่าวมาในอุตตราวิมานนั่นแล. จบอรรถกถาลขุมาวิมาน ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ จิตตลดาวรรคที่ ๒ ๒. ลขุมาวิมาน จบ. |