ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 

อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐] [๑๑]อ่านอรรถกถา 25 / 1อ่านอรรถกถา 25 / 15อรรถกถา เล่มที่ 25 ข้อ 16อ่านอรรถกถา 25 / 17อ่านอรรถกถา 25 / 440
อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปัณฑิตวรรคที่ ๖

หน้าต่างที่ ๑๑ / ๑๑.

               ๑๑. เรื่องภิกษุอาคันตุกะ [๗๐]               
               ข้อความเบื้องต้น               
               พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพวกภิกษุอาคันตุกะ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "กณฺหํ ธมฺมํ วิปฺปหาย" เป็นต้น.

               พระศาสดาตรัสเหมาะแก่ความประพฤติ               
               ดังได้ทราบมาว่า ภิกษุประมาณ ๕๐๐ รูป จำพรรษาอยู่ในแคว้นโกศล ออกพรรษาแล้ว ปรึกษากันว่า "จักเฝ้าพระศาสดา" จึงไปยังพระเชตวัน ถวายบังคมพระศาสดาแล้ว นั่งอยู่ ณ ที่สุดแห่งหนึ่ง.
               พระศาสดาทรงพิจารณาธรรมอันเป็นปฏิปักษ์แก่จริยาของพวกเธอ
               เมื่อจะทรงแสดงธรรม ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า :-
                         ๑๑. กณฺหํ ธมฺมํ วิปฺปหาย    สุกฺกํ ภาเวถ ปณฺฑิโต
                         โอกา อโนกมคมฺม    วิเวเก ยตฺถ ทูรมํ
                         ตตฺราภิรติมิจฺเฉยฺย    หิตฺวา กาเม อกิญฺจโน
                         ปริโยทเปยฺย อตฺตานํ    จิตฺตเกฺลเสหิ ปณฺฑิโต.
                         เยสํ สมฺโพธิยงฺเคสุ    สมฺมา จิตฺตํ สุภาวิตํ
                         อาทานปฏินิสฺสคฺเค    อนุปาทาย เย รตา
                         ขีณาสวา ชุติมนฺโต    เต โลเก ปรินิพฺพุตา.
                         บัณฑิตละธรรมดำแล้ว ออกจากอาลัย อาศัยธรรม
                         อันหาอาลัยมิได้แล้ว ควรเจริญธรรมขาว, ละกาม
                         ทั้งหลายแล้ว หมดความกังวล พึงปรารถนาความ
                         ยินดียิ่งในวิเวก อันเป็นที่ซึ่งประชายินดีได้ยาก,
                         บัณฑิตควรทำตนให้ผ่องแล้ว จากเครื่องเศร้าหมอง.
                         ชนเหล่าใดอบรมจิตดีแล้วโดยชอบในองค์ธรรมแห่ง
                         ความตรัสรู้, (และ) ชนเหล่าใดไม่ถือมั่น ยินดีในการ
                         ละเลิกความถือมั่น, ชนเหล่านั้นๆ เป็นพระขีณาสพ
                         รุ่งเรือง ดับสนิทแล้วในโลก.

               แก้อรรถ               
               บรรดาบทเหล่านั้น สองบทว่า กณฺหํ ธมฺมํ ความว่า ละ คือสละอกุศลธรรม ต่างโดยเป็นกายทุจริตเป็นต้น.
               สองบทว่า สุกฺกํ ภาเวถ ความว่า ภิกษุผู้เป็นบัณฑิต ควรเจริญธรรมขาว ต่างโดยเป็นกายสุจริตเป็นต้น ตั้งแต่ออกบวช จนถึงอรหัตมรรค.
               เจริญอย่างไร? คือออกจากอาลัย ปรารภธรรมอันหาอาลัยมิได้.
               อธิบายว่า ธรรมเป็นเหตุให้อาลัย ตรัสเรียกว่าโอกะ ธรรมเป็นเหตุให้ไม่มีอาลัย ตรัสเรียกว่าอโนกะ, บัณฑิตออกจากธรรมเป็นเหตุให้อาลัยแล้ว เจาะจง คือปรารภพระนิพพาน กล่าวคือธรรมเป็นเหตุไม่มีอาลัย เมื่อปรารถนาพระนิพพานนั้น ควรเจริญธรรมขาว.
               บาทพระคาถาว่า ตตฺราภิรติมิจฺเฉยฺย ความว่า พึงปรารถนาความยินดียิ่งในวิเวกที่นับว่าเป็นธรรมอันไม่มีอาลัย คือพระนิพพาน ซึ่งสัตว์เหล่านั้นอภิรมย์ได้โดยยาก.
               สองบทว่า หิตฺวา กาเม ความว่า ละวัตถุกามและกิเลสกามแล้วเป็นผู้หมดความกังวล พึงปรารถนาความยินดียิ่งในวิเวก.
               บทว่า จิตฺตเกฺสเสหิ ความว่า พึงทำตนให้ขาวผ่อง คือให้บริสุทธิ์จากนิวรณ์ ๕.
               บทว่า สมฺโพธิยงฺเคสุ ได้แก่ ในธรรมเป็นองค์เครื่องตรัสรู้.
               บาทพระคาถาว่า สมฺมา จิตฺตํ สุภาวิตํความว่า (ชนเหล่าใด) อบรม คือเจริญจิตด้วยดีแล้ว ตามเหตุ คือตามนัย.
               บาทพระคาถาว่า อาทานปฏินิสฺสคฺเค ความว่า ความยึดถือ ตรัสเรียกว่า ความถือมั่น, ชนเหล่าใด ไม่ถืออะไรๆ ด้วยอุปาทาน ๔ ยินดีแล้วในการไม่ถือมั่น กล่าวคือการเลิกละความยึดถือนั้น.
               บทว่า ชุติมนฺโต ความว่า ผู้มีอานุภาพ คือผู้ยังธรรม ต่างโดยขันธ์เป็นต้นให้รุ่งเรือง แล้วดำรงมั่นอยู่ ด้วยความรุ่งเรือง คือญาณอันกำกับด้วยอรหัตมรรค.
               สองบทว่า เต โลเก เป็นต้น ความว่า ชนเหล่าชั้นชื่อว่าดับสนิทแล้ว ในขันธาทิโลกนี้ คือปรินิพพานแล้ว ด้วยปรินิพพาน ๒ อย่าง
               คือด้วยปรินิพพานที่ชื่อว่า สอุปาทิเสส เพราะกิเลสวัฏอันตนให้สิ้นไปแล้ว ตั้งแต่เวลาที่บรรลุพระอรหัต และด้วยปรินิพพานที่ชื่อว่า อนุปาทิเสส เพราะขันธวัฏอันตนให้สิ้นไปแล้ว ด้วยดับจริมจิต คือถึงความหาบัญญัติไม่ได้ ดังประทีปหาเชื้อมิได้ฉะนั้น.
               ในเวลาจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลายมีโสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.

               เรื่องภิกษุอาคันตุกะ จบ.               
               บัณฑิตวรรควรรณนา จบ.               
               วรรคที่ ๖ จบ.               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปัณฑิตวรรคที่ ๖ จบ.
อ่านอรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐] [๑๑]
อ่านอรรถกถา 25 / 1อ่านอรรถกถา 25 / 15อรรถกถา เล่มที่ 25 ข้อ 16อ่านอรรถกถา 25 / 17อ่านอรรถกถา 25 / 440
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=479&Z=514
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=21&A=1
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=21&A=1
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๑๑  พฤศจิกายน  พ.ศ.  ๒๕๔๘
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :