ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อ่านอรรถกถา 25 / 1อ่านอรรถกถา 25 / 180อรรถกถา เล่มที่ 25 ข้อ 181อ่านอรรถกถา 25 / 182อ่านอรรถกถา 25 / 440
อรรถกถา ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ เอกนิบาต
ปฐมวรรค โมหสูตร

               อรรถกถาโมหสูตร               
               ในโมหสูตรที่ ๓ พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
               บทว่า โมหํ ได้แก่ความไม่รู้.
               จริงอยู่ ความไม่รู้นั้นมีประเภทหลายอย่าง โดยวิภาคโดยนัยเป็นต้นว่า ความไม่รู้ในทุกข์ ความไม่รู้ในเหตุให้เกิดทุกข์ ความไม่รู้ในการดับทุกข์ ความไม่รู้ในข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์. ท่านกล่าวว่า โมหะ เพราะอรรถว่าเป็นเหตุให้หลง หรือหลงไปเอง หรือเป็นเพียงความหลงเท่านั้น พึงเห็นว่า โมหะนั้นมีความที่จิตมืดเป็นลักษณะ หรือมีความไม่รู้เป็นลักษณะ มีความไม่แทงตลอดเป็นรส หรือมีความปกปิดสภาพอารมณ์เป็นรส มีการปฏิบัติหลงลืมเป็นอาการปรากฏ หรือปรากฏมืดมัวเป็นอาการปรากฏ มีการไม่ใส่ใจเป็นปทัฏฐาน เป็นรากแห่งอกุศลทั้งหมด.
               บัดนี้ พึงเห็นความแห่งบทว่า ปชหถ ดังนี้
                                   คนหลง ย่อมไม่รู้อรรถ คนหลงย่อม
                         ไม่รู้ธรรม โมหะ ย่อมครอบงำคนมืดบอด
                         ตลอดกาล โมหะ ให้เกิดความพินาศ ฯลฯ๑-
               ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อวิชชาเป็นส่วนเบื้องต้นของการเข้าถึงอกุศลกรรม๒-
               สัตวโลกถูกโมหะรัดรึงไว้ ปรากฏดุจสิ่งน่าพอใจ๓-
               โมหะเป็นเหตุเพื่อให้เกิดกรรมทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงพิจารณาโทษในโมหะ โดยนัยมีอาทิว่า๔- ดูก่อนพราหมณ์ คนหลงแลถูกโมหะครอบงำ มีจิตยึดแน่น ย่อมประสบภัยเวรแม้ในปัจจุบัน ย่อมประสบภัยเวรแม้ในภพหน้า.
               และโดยนัยเป็นต้นว่า ความพินาศใดๆ พึงเกิดขึ้นด้วยธรรมเศร้าหมองมีกามฉันทะเป็นต้น ความพินาศทั้งหมดนั้นมีโมหะเป็นเหตุ และอานิสงส์ในการละโมหะ โดยตรงกันข้ามกับโทษนั้นแล้วละโมหะด้วยตทังคะเป็นต้นในส่วนเบื้องต้น โดยลำดับการละกามฉันทะเป็นต้นนั่นเอง จงละโมหะอันเป็นเอกของโลภะและโทสะตามที่กล่าวแล้ว โดยสมุจเฉทด้วยตติยมรรค.
____________________________
๑- ขุ. อิติ. เล่ม ๒๕/ข้อ ๒๖๘
๒- ขุ. อิติ. เล่ม ๒๕/ข้อ ๒๑๘
๓- ขุ. อุ. เล่ม ๒๕/ข้อ ๑๕๗
๔- องฺ. ติก. เล่ม ๒๐/ข้อ ๔๗๓

               ก็ในพระสูตรนี้ ท่านประสงค์เอาโมหะอันอนาคามิมรรคพึงฆ่านั่นเอง
               บทว่า มุฬฺหาเส ได้แก่ ลุ่มหลงในประโยชน์ และมิใช่ประโยชน์ของตน อันต่างด้วยกุศลอกุศล มีโทษและไม่มีโทษเป็นต้น.
               บทที่เหลือมีนัยดังกล่าวแล้วนั่นแล.

               จบอรรถกถาโมหสูตรที่ ๓               
               -----------------------------               

.. อรรถกถา ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ เอกนิบาต ปฐมวรรค โมหสูตร จบ.
อ่านอรรถกถา 25 / 1อ่านอรรถกถา 25 / 180อรรถกถา เล่มที่ 25 ข้อ 181อ่านอรรถกถา 25 / 182อ่านอรรถกถา 25 / 440
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=4434&Z=4448
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=27&A=1179
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=27&A=1179
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๑๘  กุมภาพันธ์  พ.ศ.  ๒๕๔๙
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :