บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
บทว่า กุมารีปญฺเหสุ ได้แก่ ในคำถามของธิดามารผู้ยังสาว. ตรัสพระอรหัตอย่างเดียว ด้วยบททั้งสองว่า อตฺถสฺส ปตฺติ หทยสฺส สนฺติ การบรรลุประโยชน์เป็นความสงบแห่งพระหฤทัย. บทว่า เสนํ ได้แก่ กองทัพกิเลสมีราคะเป็นต้น. บทว่า ปิยสาตรูปํ ได้ชื่ออย่างนี้ ก็เพราะกิเลสเกิดในวัตถุทั้งหลายที่น่ารักและน่าชื่นใจ. บทว่า เอโกหํ ฌายี สุขมานุโพธึ ความว่า เราผู้เดียวเท่านั้น (รู้จักกองทัพกิเลสอย่างนี้แล้ว) จึงเข้าฌาน ตรัสรู้ได้โดยง่าย. บทว่า สกฺขึ ความว่า ได้แก่ ประจักษ์ธรรมที่ถึงความเป็นประจักษ์พยาน. บทว่า สกฺขึ น สมฺปชฺชติ เกนจีเม ความว่า เราไม่มีมิตรธรรมกับใครๆ. บทว่า ปฐวีกสิณสมาปตฺติปรมา โข ภคินิ เอเก สมณพฺราหฺมณา อตฺถาภินิพฺพตฺเตสุํ ความว่า สมณพราหมณ์พวกหนึ่ง ยึดถือว่า ปฐวีกสิณสมาบัติเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสูงสุด จึงทำให้เกิด. บทว่า ยาวตา โข ภคินี ปฐวีกสิณสมาปตฺติปรมตา ความว่า ความที่ประโยชน์มีปฐวีกสิณสมาบัติก็ยอดสูงสุด ประมาณเพียงใด. บทว่า ตทภิญฺญาสิ ภควา ได้แก่ พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงรู้ชัดซึ่งปฐวีกสิณสมาบัตินั้น ด้วยความรู้ยิ่งซึ่งประโยชน์นั้นด้วยพระปัญญา. บทว่า อาทิมทฺทสฺส ได้แก่ ได้ทรงเห็นสมุทัยสัจ. บทว่า อาทีนวมทฺทสฺส ได้แก่ ได้ทรงเห็นทุกขสัจ. บทว่า นิสฺสรณมทฺทสฺส ได้แก่ ได้ทรงเห็นนิโรธสัจ. บทว่า มคฺคามคฺคญาณทสฺสนมทฺทสฺส ได้แก่ ทรงเห็นมรรคสัจ. บทว่า อตฺถสฺส ปตฺติ ได้แก่ การซ่องเสพประโยชน์ กล่าวคือพระอรหัต เพราะเห็นสัจจะ ๔ เหล่านี้ เป็นความสงบแห่งพระหฤทัย เพราะความกระวนกระวายและความเร่าร้อนสงบไปหมด. จบอรรถกถากาลีสูตรที่ ๖ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต ปฐมปัณณาสก์ มหาวรรคที่ ๓ ๖. กาลีสูตร จบ. |