บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
บทว่า ปุริสคติโย ได้แก่ ญาณคติของบุรุษ, บทว่า อนุปาทา ปรินิพฺพานํ ได้แก่ ปรินิพพานอันหาปัจจัยมิได้. บทว่า โน จสฺส ความว่า ถ้ากรรมอันบังเกิดในอัตตภาพอันเป็นอดีต จักไม่ได้มีแล้วไซร้. บทว่า โน จ เม สิยา ความว่า ในอัตตภาพนี้ ในกาลบัดนี้ กรรมก็ไม่พึงมีแก่เรา. บทว่า น ภวิสฺสติ ความว่า บัดนี้ กรรมอันจะยังอัตตภาพอันเป็นอนาคตของเราให้บังเกิด จักไม่มี. บทว่า น เม ภวิสฺสติ ความว่า อัตตภาพของเราในอนาคตจักไม่มี. บทว่า ยทตฺถิ ยํ ภูตํ ความว่า เบญจขันธ์ที่กำลังมีอยู่ ที่มีแล้ว ที่เป็นปัจจุบัน เกิดขึ้นเฉพาะหน้า. บทว่า ตํ ปชหามีติ อุเปกฺขํ ปฏิลภติ ความว่า ย่อมได้อุเบกขาอันสัมปยุตด้วยวิปัสสนาญาณว่า เราจะละเบญจขันธ์นั้น ด้วยการละฉันทราคะในเบญจขันธ์นั่นเสีย. บทว่า ภเว น รชฺชติ ความว่า ย่อมไม่กำหนัดในเบญจขันธ์ที่เป็นอดีต ด้วยตัณหาและทิฏฐิ. บทว่า สมฺภเว น รชฺชติ ความว่า ย่อมไม่กำหนัดในเบญจขันธ์ แม้ที่เป็นอนาคต ก็เหมือนกันนั่นแหละ. บทว่า อตฺถุตฺตริ ปทํ สนฺตํ ความว่า ชื่อว่าบทคือพระนิพพาน เป็นบท บทว่า สมฺมปฺปญฺญาย ปสฺสติ ความว่า ย่อมเห็นโดยชอบซึ่งบทคือพระนิพพานนั้น ด้วยมรรคปัญญาพร้อมด้วยวิปัสสนา. บทว่า น สพฺเพน สพฺพํ ความว่า บททั้งปวงอันภิกษุไม่ทำให้แจ้งแล้ว โดยอาการทั้งปวง เพราะละกิเลสบางเหล่ายังไม่ได้ เพราะความมืดอันเป็นตัวปกปิดสัจจะยังกำจัดไม่ได้ โดยประการทั้งปวง. บทว่า หญฺญมาเน ความว่า ดังแผ่นเหล็กที่ลุกโชน อันนายช่างเอาคีมจับแล้วเอาค้อนทุบ. บทว่า อนฺตราปรินิพฺพายี ความว่า จำเดิมแต่กาลอันเป็นลำดับจากเหตุเกิดขึ้น พระอนาคามีบุคคลไม่ล่วงเลยท่ามกลางอายุแล้ว ปรินิพพานด้วยกิเลสปรินิพพานในระหว่างนี้. บทว่า อนุปหจฺจ ตลํ ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงอันตราปรินิพพายีบุคคลไว้ ๓ จำพวกด้วยอุปมา ๓ ข้อเหล่านี้ คือ สะเก็ดลูกไฟเหล็กไม่กระทบพื้น, ไม่ล่วงไปถึงพื้น, พึงดับเสียในอากาศนั่นแล. บทว่า อุปหจฺจปรินิพฺพายี ความว่า พระอนาคามีบุคคลล่วงกลางอายุ จดที่สุดแห่งจิตดวงหลัง แล้วปรินิพพาน. บทว่า อุปหจฺจ ตลํ ความว่า สะเก็ดลูกไฟเหล็กติดไฟโคลงอยู่ ไม่ล่วงเลยพื้นอากาศ หรือเข้ากระทบพื้นดิน เพียงตกไปในที่ดินเท่านั้น แล้วก็ดับไป. พระอนาคามีบุคคลผู้ทำกิเลสทั้งหลายให้สิ้นไปโดยไม่มีสังขารอื่นกระตุ้นเตือน คือโดยไม่มีความพยายาม แล้วปรินิพพาน เพราะเหตุนั้น พระอนาคามีนั้น จึงชื่อว่าอสังขารปรินิพพายี ผู้ปรินิพพานโดยไม่ต้องมีสังขารอื่นช่วยกระตุ้นเตือน. พระอนาคามีบุคคลผู้ทำกิเลสทั้งหลายให้สิ้นไปโดยมีสังขารอื่นกระตุ้นเตือน คือต้องประกอบด้วยความเพียรแล้วปรินิพพาน เพราะเหตุนั้นจึงชื่อว่าสสังขารปรินิพพายี ผู้ปรินิพพานโดยต้องมีสังขารอื่นช่วยกระตุ้นเตือน. บทว่า คจฺฉํ ความว่า ป่าอันปราศจากอารักขา. บทว่า ทายํ ความว่า ป่าอันมีอารักขา คืออันท่านให้เพื่อประโยชน์แก่การอภัยแล้ว. คำที่เหลือในบทเหล่านี้มีอรรถง่ายทั้งนั้น. ในพระสูตรนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถึงพระอริยบุคคลทั้งหลายดังนี้แล. จบอรรถกถาปุริสคติสูตรที่ ๒ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต อัพยากตวรรคที่ ๑ ๒. ปุริสคติสูตร จบ. |