ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อ่านอรรถกถา 22 / 1อ่านอรรถกถา 22 / 204อรรถกถา เล่มที่ 22 ข้อ 205อ่านอรรถกถา 22 / 206อ่านอรรถกถา 22 / 388
อรรถกถา อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต ปัญจมปัณณาสก์ กิมพิลวรรคที่ ๑
๕. เจโตขีลสูตร

               อรรถกถาเจโตขีลสูตรที่ ๕               
               พึงทราบวินิจฉัยในเจโตขีลสูตรที่ ๕ ดังต่อไปนี้ :-
               บทว่า เจโตขีลา ได้แก่ ความกระด้าง ความเป็นขยะ ความเป็นหลักตอแห่งจิต.
               บทว่า สตฺถริ กงฺขติ ความว่า ภิกษุย่อมสงสัยในพระวรกาย หรือในพระคุณของพระศาสดา. เมื่อสงสัยในพระวรกาย ย่อมสงสัยว่า พระวรกาย ชื่อว่าประดับด้วยปุริสลักษณะ ๓๒ มีอยู่หรือไม่มีหนอดังนี้ เมื่อสงสัยในคุณ ย่อมสงสัยว่า พระสัพพัญญุตญาณซึ่งสามารถรู้อดีต อนาคตและปัจจุบัน มีอยู่หรือไม่มีหนอดังนี้.
               บทว่า วิจิกิจฺฉติ ได้แก่ เลือกเฟ้นยาก ย่อมถึงความลำบาก คือไม่สามารถจะตัดสินใจได้.
               บทว่า นาธิมุจฺจติ ได้แก่ ย่อมไม่ได้ความน้อมใจเชื่อว่าสิ่งนั้นอย่างนี้.
               บทว่า น สมฺปสีทติ ความว่า หยั่งลงในคุณแล้วก็ไม่สามารถจะเลื่อมใส คือมีใจไม่ขุ่นมัว เพราะไม่มีความสงสัยได้.
               บทว่า อาตปฺปาย ได้แก่ เพื่อทำความเพียรเผาผลาญกิเลส.
               บทว่า อนุโยคาย ได้แก่ เพื่อความประกอบบ่อยๆ.
               บทว่า สาตจฺจาย ได้แก่ เพื่อทำติดต่อกัน.
               บทว่า ปธานาย ได้แก่ เพื่อตั้งความเพียร.
               บทว่า อยํ ปฐโม เจโตขีโล ความว่า ภาวะนี้เป็นความกระด้างแห่งจิตข้อที่หนึ่ง คือความสงสัยในพระศาสดานี้อย่างนี้แล ภิกษุนั้นก็ละยังไม่ได้.
               บทว่า ธมฺเม คือ ในปริยัติธรรม และปฏิเวธธรรม.
               ก็เมื่อสงสัยในปริยัติธรรม ย่อมสงสัยว่า อาจารย์ทั้งหลายกล่าวกันว่า พระไตรปิฎก พุทธพจน์มีแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ ดังนี้ พระพุทธพจน์นั้นมีอยู่ หรือไม่มีหนอดังนี้. เมื่อสงสัยในปฏิเวธธรรม ย่อมสงสัยว่า อาจารย์ทั้งหลายกล่าวกันว่า ผลแห่งวิปัสสนาชื่อว่ามรรค ผลของมรรคชื่อว่าผล ธรรมที่สละคืนสังขารทั้งปวงชื่อว่านิพพานดังนี้ นิพพานนั้นมีอยู่ หรือไม่มีหนอ ดังนี้.
               บทว่า สงฺเฆ กงฺขติ ความว่า ย่อมสงสัยว่า ชื่อว่าสงฆ์ผู้ดำเนินตามปฏิปทาเห็นปานนี้ ตามบทเป็นต้นว่า อุชุปฏิปนฺโน ดังนี้ เป็นชุมนุมแห่งบุคคล ๘ คือ ท่านผู้ตั้งอยู่ในมรรค ๔ ท่านผู้ตั้งอยู่ในผล ๔ มีอยู่ หรือไม่มีหนอดังนี้.
               เมื่อสงสัยในสิกขา ย่อมสงสัยว่า อาจารย์ทั้งหลายกล่าวกันว่า อธิสีลสิกขา อธิจิตตสิกขา อธิปัญญาสิกขาดังนี้ สิกขานั้นมีอยู่ หรือไม่มีหนอดังนี้.
               บทว่า อยํ ปญฺจโม ความว่า ภาวะนี้เป็นความกระด้าง ความเป็นขยะ เป็นหลักตอแห่งจิตข้อที่ห้า คือความขัดเคืองในเพื่อนสพรหมจารี.

               จบอรรถกถาเจโตขีลสูตรที่ ๕               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต ปัญจมปัณณาสก์ กิมพิลวรรคที่ ๑ ๕. เจโตขีลสูตร จบ.
อ่านอรรถกถา 22 / 1อ่านอรรถกถา 22 / 204อรรถกถา เล่มที่ 22 ข้อ 205อ่านอรรถกถา 22 / 206อ่านอรรถกถา 22 / 388
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=22&A=5784&Z=5806
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=16&A=1899
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=16&A=1899
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๒๓  มกราคม  พ.ศ.  ๒๕๕๐
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :