บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
อรรถกถาสมณสูตรที่ ๑ บทว่า สมณสฺส แปลว่า อันเป็นของสมณะ. บทว่า สมณกรณียานิ แปลว่า กิจอันสมณะพึงทำ. ในบทว่า อธิสีลสิกฺขาสมาทานํ เป็นต้น มีอธิบายว่า การถือ เรียกว่าสมาทาน. การสมาทาน การถือ การบำเพ็ญอธิสีลสิกขา ชื่อว่าอธิสีลสิกขาสมาทาน. แม้ในสองบทที่เหลือก็นัยนี้เหมือนกัน. อธิศีล-อธิจิต-อธิปัญญา อนึ่ง โลกิยศีลทั้งหมดจัดเป็นศีล โลกุตรศีลจัดเป็นอธิศีล อธิศีลนั้นแหละเรียกว่าสิกขา เพราะต้องศึกษา. ส่วนกามาวจรจิต ชื่อว่าจิต รูปาวจรจิต ชื่อว่าอธิจิต เพราะเทียบเคียงกับกามาวจรจิตนั้น อรูปาวจรจิต ชื่อว่าอธิจิต เพราะเทียบเคียงกับรูปาวจรจิตนั้น. อนึ่ง โลกิยจิตทั้งหมดจัดเป็นจิต โลกุตรจิตจัดเป็นอธิจิต. แม้ในปัญญาก็มีนัยเดียวกันนี้แล. บทว่า ตสฺมา ความว่า เพราะเหตุที่กิจอันสมณะพึงทำทั้ง ๓ เหล่านี้. บทว่า ติพฺโพ ได้แก่ หนา. บทว่า ฉนฺโท ได้แก่ ความพอใจในกุศล คือความเป็นผู้ต้องการจะทำ. สิกขา ๓ ทั้งที่เป็นโลกิยะและโลกุตระ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ในสูตรนี้ ด้วยประการดังพรรณนามาฉะนี้แล. จบอรรถกถาสมณสูตรที่ ๑ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต ทุติยปัณณาสก์ สมณวรรคที่ ๔ ๑. สมณสูตร จบ. |