บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
อรรถกถาสูตรที่ ๑ บทว่า อนาคตํ ภารํ วหติ ความว่า เป็นนวกะ พระเถระมิได้เชื้อเชิญ ก็กระทำภาระ ๑๐ อย่าง. ในพระบาลีนี้ว่า ถวายโรงอุโบสถ ๑ ตามประทีป ๑ ตั้งน้ำดื่ม ๑ ตั้งอาสนะ ๑ นำฉันทะมา ๑ นำปาริสุทธิมา ๑ บอกฤดู ๑ นับภิกษุ ๑ โอวาท ๑ สวดปาติโมกข์ ๑ ท่านเรียกว่า ภาระหน้าที่ของพระเถระ ดังนี้ ชื่อว่านำพาภาระที่ยังไม่มาถึง. บทว่า อาคตํ ภารํ น วหติ ความว่า เป็นพระเถระอยู่ ไม่กระทำภาระ ๑๐ นั้นแหละด้วยตน หรือไม่ชักชวนมอบหมายผู้อื่น ชื่อว่าไม่นำพาภาระที่มาถึงเข้า. อรรถกถาสูตรที่ ๒ อรรถกถาสูตรที่ ๓ บทว่า อกปฺปิเย กปฺปิยสญฺญี ได้แก่ ผู้มีความสำคัญในสิ่งที่เป็นอกัปปิยะ คือเนื้อราชสีห์เป็นต้นอย่างนี้ว่า นี้เป็นกัปปิยะ. บทว่า กปฺปิเย อกปฺปิยสญฺญี ได้แก่ ผู้มีความสำคัญในสิ่งที่เป็นกับปิยะ มีเนื้อจระเข้และเนื้อแมวเป็นต้นอย่างนี้ว่า นี่เป็นอกัปปิยะ. อรรถกถาสูตรที่ ๔ อรรถกถาสูตรที่ ๕ บทว่า อนาปตฺติยา อาปตฺติสญฺญี ได้แก่ เป็นผู้มีความสำคัญในเรื่องที่ไม่เป็นอาบัติ เป็นต้นว่า ภิกษุทำความสะอาดภัณฑะ รมบาตร ตัดผม เข้าบ้านโดยบอกลา นั้นอย่างนี้ว่า นี้เป็นอาบัติ. บทว่า อาปตฺติยา อนาปตฺติสญฺญี ได้แก่ เป็นผู้มีความสำคัญในอาบัติเพราะไม่เอื้อเฟื้อต่อเรื่องเหล่านั้นนั่นแหละ นั้นอย่างนี้ว่า นี้ไม่เป็นอาบัติ. อรรถกถาสูตรที่ ๖ อรรถกถาสูตรที่ ๗ เป็นต้น อรรถกถาสูตรที่ ๑๑ บทว่า อาสวา ได้แก่ กิเลส. บทว่า น กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ ความว่า ความไม่ปรารถนาไม่วิจารณ์ส่วนในสงฆ์ ชื่อว่าสิ่งที่ไม่ควรรำคาญ. บทว่า กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ ความว่า ไม่รำคาญความปรารถนาวิจารณ์ส่วนในสงฆ์นั้นนั่นแหละ. อรรถกถาสูตรที่ ๑๒ เป็นต้น จบอรรถถาสูตรที่ ๑๒ เป็นต้น จบพาลวรรคที่ ๕ จบทุติยปัณณาสก์ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา อังคุตตรนิกาย ทุกนิบาต ทุติยปัณณาสก์ พาลวรรคที่ ๕ จบ. |