บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
บทว่า สตฺตฏฺฐานกุสโล ได้แก่ ผู้ฉลาดในโอกาส ๗ ประการ. บทว่า วุสิตวา ได้แก่ ผู้อยู่จบพรหมจรรย์. บทว่า อุตฺตมปุริโส ได้แก่ บุรุษผู้ประเสริฐที่สุด. คำที่เหลือพึงทราบตามนัยที่กล่าวแล้วในที่นี้นั่นแล. แต่พระสูตรนี้พึงทราบว่า ประกอบด้วยความเพลิดเพลินมากและเป็นที่ตั้งแห่งความยั่วยวน เหมือนพระราชาชนะสงครามแล้ว สถาปนาเหล่าทหารที่ชนะสงครามไว้ในตำแหน่งสูง แล้วพระราชทานสักการะแก่ทหารเหล่านั้น. เพราะเหตุไร? เพราะพวกคนที่เหลือเห็นสักการะของทหารเหล่านั้น จักสำคัญเพื่อเป็นคนกล้าบ้าง ฉันใด พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบำเพ็ญพระบารมีตลอดกาลหาประมาณมิได้ ทรงชนะกิเลสมาร ณ มหาโพธิมณฑล ทรงบรรลุพระสัพพัญญุตญาณ ประทับนั่ง ณ พระเชตวันมหาวิหาร กรุงสาวัตถี เมื่อจะแสดงพระสูตรนี้ จึงยกพระขีณาสพขึ้นชมเชยสรรเสริญ. เพราะเหตุไร? เพราะเสขบุคคลที่เหลือจักสำคัญพระอรหัตตผลว่าควรบรรลุ ด้วยประการฉะนี้. พระสูตรนี้ พึงทราบว่า ประกอบด้วยความเพลิดเพลินมาก เพราะพระองค์ทรงยกพระขีณาสพขึ้นสรรเสริญ พึงทราบว่าเป็นที่ตั้งแห่งความยั่วยวน เพราะพระเสขะทั้งหลายก็อยากได้. ก็ในคำนี้ว่า เอวํโข ภิกฺขเว ภิกฺขุ สตฺตฏฺฐานกุสโล โหติ นี้ แม้พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงให้เทศนาจบลงด้วยการพิจารณามรรคจิตและผลจิตด้วยพระดำรัสเพียงเท่านี้ พระองค์ได้ตรัสพระดำรัสนี้ว่า กถญฺจ ภิกฺขเว ภิกฺขุ ติวิธูปปริกฺขี โหติ อีกก็เพื่อทรงแสดงเหตุเป็นเครื่องอยู่ ๗ ประการของพระขีณาสพอย่างนี้ว่า พระขีณาสพย่อมอยู่ด้วยเหตุเป็นเครื่องอยู่ ๗ ประการในอารมณ์ใด อารมณ์นั้นไม่ใช่เป็นสัตว์หรือบุคคล แต่เป็นเพียงธาตุเป็นต้นเท่านั้น และแสดงถึงอาคมนียปฏิปทาว่า ในธรรมเหล่านี้ ธรรมนี้มาเพราะทำกรรม. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ธาตุโส อุปปริกฺขติ ความว่า เห็น คือตรวจดูโดยความเป็นธาตุ. แม้ในบททั้งสองที่เหลือ ก็นัยนี้แหละ. จบ อรรถกถาสัตตัฏฐานสูตรที่ ๕ -------------------------------- .. อรรถกถา สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค ขันธสังยุตต์ มัชฌิมปัณณาสก์ อุปายวรรคที่ ๑ สัตตัฏฐานสูตรที่ ๕ ว่าด้วยการรู้ขันธ์ ๕ โดยฐานะ จบ. |