ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อ่านอรรถกถา 16 / 1อ่านอรรถกถา 16 / 352อรรถกถา เล่มที่ 16 ข้อ 355อ่านอรรถกถา 16 / 361อ่านอรรถกถา 16 / 725
อรรถกถา สังยุตตนิกาย นิทานวรรค ธาตุสังยุตต์ ทุติยวรรคที่ ๒
สนิทานสูตร

               อรรถกถาสนิทานสูตรที่ ๒               
               พึงทราบวินิจฉัยในสนิทานสูตรที่ ๒ ดังต่อไปนี้.
               บทว่า สนิทานํ นั่นเป็นภาวนปุงสกลิงค์. อธิบายว่า มีเหตุ มีปัจจัยเกิดขึ้น.
               ในบทว่า กามธาตุํ ภิกฺขเว ปฏิจฺจ นี้ กามวิตกก็ดี กามาวจรธรรมก็ดี ชื่อว่ากามธาตุ โดยแปลกกัน ก็เป็นอกุศลทั้งหมด
               ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ในธรรมเหล่านั้น กามธาตุเป็นไฉน.
               ความตรึก ความวิตก ความดำริ ความแนบแน่น ความบ่นถึง ความยกขึ้นแห่งจิต ความดำริผิด อันประกอบด้วยกาม นี้ท่านเรียกว่า กามธาตุ. เบื้องต่ำทำอเวจีนรกเป็นที่สุด เบื้องบนทำปรนิมมิตวสวัตตีเทพเป็นที่สุด ที่ท่องเที่ยวไปภายในสถานที่นี้ ขันธ์ ธาตุ อายตนะ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อันนับเนื่องในสถานที่นี้ นี้ท่านเรียกว่า กามธาตุ.
               อกุศลธรรมแม้ทั้งปวง ชื่อว่ากามธาตุ ดังนี้.
               ในข้อนี้ มีถ้อยคำ ๒ อย่าง คือรวมกันทั้งหมด (และ) แยกกัน.
               ถามว่า อย่างไร.
               ตอบว่า ถ้อยคำนี้ว่า ก็พยาบาทธาตุและวิหิงสาธาตุ เป็นธรรมที่ท่านถือเอาแล้วด้วยกามธาตุ ศัพท์อย่างเดียว ชื่อว่ารวมกันทั้งหมด. ส่วนถ้อยคำนี้ว่า ธรรมที่เหลือเป็นกามธาตุ ชื่อว่าแยกกัน เพราะธาตุทั้งสองเหล่านั้นมาแล้วแผนกหนึ่ง. ในข้อนี้ ควรถือเอาถ้อยคำนี้.
               ชื่อว่ากามสัญญา ย่อมเกิดขึ้น เพราะอาศัยกามธาตุนี้ ด้วยอำนาจแห่งอารมณ์ หรือด้วยอำนาจการประกอบพร้อม (สัมปโยค).
               บทว่า กามสญฺญํ ปฏิจฺจ ความว่า ชื่อว่าความดำริในกาม ย่อมเกิดขึ้นเพราะอาศัยกามสัญญา ด้วยอำนาจประกอบพร้อม (สัมปโยค) หรือด้วยอำนาจอุปนิสสยปัจจัย.
               เนื้อความในบททั้งปวง ก็พึงทราบโดยนัยนี้แล.
               บทว่า ตีหิ ฐาเนหิ แปลว่า ด้วยเหตุ ๓ อย่าง.
               บทว่า มิจฺฉา ปฏิปชฺชติ ความว่า ดำเนินตามปฏิปทาที่ไม่เป็นจริง คือข้อปฏิบัติที่ไม่นำออกจากทุกข์.
               ในบทว่า พฺยาปาทธาตุํ ภิกฺขเว นี้ พยาบาทวิตกก็ดี พยาบาทก็ดี เป็นพยาบาทธาตุ
               ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ในธรรมเหล่านั้น พยาบาทธาตุเป็นไฉน
               ความตรึก ความวิตก ประกอบด้วยพยาบาท ฯลฯ นี้ท่านเรียกว่า พยาบาทธาตุ. ความอาฆาต ความโกรธตอบ ความโกรธ ความโกรธเคือง ของจิตในอาฆาตวัตถุ ๑๐ ฯลฯ ความที่จิตไม่พอใจ นี้ท่านเรียกว่า พยาบาทธาตุ.
               ชื่อพยาบาทสัญญาย่อมเกิดขึ้นเพราะอาศัยพยาบาทธาตุนี้ ด้วยอำนาจสหชาตปัจจัยเป็นต้น.
               คำที่เหลือพึงทราบโดยนัยก่อนแล.
               ในบทว่า วิหึสาธาตุํ ภิกฺขเว นี้ วิหิงสาวิตกก็ดี วิหิงสาก็ดี เป็นวิหิงสาธาตุ
               ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ในธรรมเหล่านั้น วิหิงสาธาตุเป็นไฉน.
               ความตรึก ความวิตก ที่ประกอบด้วยวิหิงสา ฯลฯ นี้ท่านเรียกว่า วิหิงสาธาตุ.
               บุคคลบางคนในโลกนี้ย่อมเบียดเบียนสัตว์ด้วยฝ่ามือบ้าง ด้วยก้อนดินบ้าง ด้วยท่อนไม้บ้าง ด้วยศัสตราบ้าง ด้วยเชือกบ้างอย่างใดอย่างหนึ่ง การโบย การทำให้ลำบาก การเบียดเบียน การบีบคั้น การโกรธ การเข้าไปฆ่าผู้อื่น นี้ท่านเรียกว่า วิหิงสาธาตุ.
               ชื่อวิหิงสาสัญญา ย่อมเกิดขึ้น เพราะอาศัยวิหิงสาธาตุนี้ ด้วยอำนาจสหชาตปัจจัยเป็นต้น.
               คำที่เหลือแม้ในบทนี้ พึงทราบโดยนัยก่อนแล.
               บทว่า ติณทาเย ได้แก่ ในป่าคือป่าหญ้า.
               บทว่า อนยพฺยสนํ ได้แก่ ความไม่เจริญ คือพินาศ.
               ในบทว่า เอวเมว โข นี้ ความว่า พึงเห็นอารมณ์เหมือนป่าหญ้าแห้ง อกุศลสัญญาเหมือนคบเพลิงหญ้า สัตว์ทั้งหลายเหล่านี้เหมือนสัตว์มีชีวิตอาศัยหญ้าและใบไม้ เมื่อเขาไม่พยายามรีบดับคบเพลิงหญ้าที่ตั้งไว้ในป่าหญ้าแห้ง สัตว์มีชีวิตเหล่านั้นย่อมถึงความพินาศฉิบหายฉันใด สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดไม่ละอกุศลสัญญาที่เกิดขึ้นด้วยวิกขัมภนปหาน ตทังคปหาน สมุจเฉทปหาน สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นย่อมอยู่เป็นทุกข์ฉันนั้นเหมือนกัน.
               บทว่า วิสมคตํ ความว่า อกุศลสัญญา ตกเข้าไปสู่อารมณ์ที่รบกวนเฉพาะราคะเป็นต้น.
               บทว่า น ขิปฺปเมว ปชหติ ได้แก่ ไม่รีบละเสีย ด้วยอำนาจวิกขัมภนะเป็นต้น.
               บทว่า น วิโนเทติ ได้แก่ ไม่นำออกเสีย.
               บทว่า น พฺยนฺตีกโรติ ได้แก่ กระทำอกุศลสัญญานั้นให้หมดสิ้นโดยไม่เหลือ แม้สักว่าภังคขณะ.
               บทว่า น อนภาวํ คเมติ ได้แก่ ไม่ให้ถึงความไม่มี.
                อักษรพึงนำมาใช้ในทุกบทอย่างนี้.
               บทว่า ปฏิกงฺขา ได้แก่ พึงหวัง คือปรารถนา.
               ในบทว่า เนกฺขมฺมธาตุํ ภิกฺขเว นี้ เนกขัมมวิตกก็ดี กุศลธรรมทั้งปวงก็ดี เป็นเนกขัมมธาตุ
               ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ในธรรมเหล่านั้น เนกขัมมธาตุเป็นไฉน.
               ความตรึก ความวิตกที่ประกอบด้วยเนกขัมมะ ฯลฯ สัมมาสังกัปปะนี้ท่านเรียกว่า เนกขัมมธาตุ.
               แม้ในข้อนี้ก็มีถ้อยคำ ๒ อย่าง ก็ธาตุทั้งสองนอกนี้ย่อมถือเอาด้วยเนกขัมธาตุศัพท์ เพราะนับเนื่องในกุศลธรรม นี้ชื่อว่ารวมกันทั้งหมด. ส่วนธาตุเหล่านั้นพึงแสดงไว้ต่างหาก กุศลทั้งปวงที่เหลือ เว้นธาตุเหล่านั้นเสีย เป็นเนกขัมมธาตุ เพราะฉะนั้น เนกขัมมธาตุนี้จึงไม่แยกกัน.
               ชื่อเนกขัมมสัญญาย่อมเกิดขึ้น เพราะอาศัยเนกขัมมธาตุนี้ด้วยอำนาจแห่งสหชาตปัจจัยเป็นต้น. ธรรมมีวิตกเป็นต้น ย่อมเกิดขึ้นเพราะอาศัยสัญญาเป็นต้น ตามสมควร.
               ในบทว่า อพฺยาปาทธาตุํ ภิกฺขเว นี้ อัพยาบาทวิตกก็ดี อัพยาบาทก็ดี เป็นอัพยาบาทธาตุ
               ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ในธรรมเหล่านั้น อัพยาบาทธาตุเป็นไฉน.
               ความตรึก ที่ประกอบด้วยอัพยาบาท ฯลฯ นี้ท่านเรียกว่า อัพยาบาทธาตุ.
               ความรัก ความมีไมตรีต่อกัน ความปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุขในสัตว์ทั้งหลาย เมตตาจโตวิมุตติ นี้ท่านเรียกว่าอัพยาบาทธาตุ.
               ชื่ออัพยาบาทสัญญาย่อมเกิดขึ้นเพราะอาศัยอัพยาบาทธาตุนี้ โดยนัยที่กล่าวแล้วแล.
               แม้ในบทว่า อวิหึสาธาตุํ ภิกฺขเว นี้ อวิหิงสาวิตกก็ดี กรุณาก็ดี เป็นอวิหิงสาธาตุ
               ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ในธรรมเหล่านั้น อวิหิงสาธาตุเป็นไฉน.
               ความตรึกที่ประกอบด้วยอวิหิงสา ฯลฯ นี้ท่านเรียกว่า อวิหิงสาธาตุ. ความกรุณา ความสงสาร การช่วยผู้อื่นให้พ้นทุกข์ในสัตว์ทั้งหลาย กรุณาเจโตวิมุตติ นี้ท่านเรียกว่า อวิหิงสาธาตุ.
               ชื่ออวิหิงสาสัญญาย่อมเกิดขึ้นเพราะอาศัยอวิหิงสาธาตุนี้ โดยนัยที่กล่าวแล้วแล.
               คำที่เหลือ พึงทราบตามแนวที่กล่าวแล้วในบททั้งปวงแล.

               จบอรรถกถาสนิทานสูตรที่ ๒               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา สังยุตตนิกาย นิทานวรรค ธาตุสังยุตต์ ทุติยวรรคที่ ๒ สนิทานสูตร จบ.
อ่านอรรถกถา 16 / 1อ่านอรรถกถา 16 / 352อรรถกถา เล่มที่ 16 ข้อ 355อ่านอรรถกถา 16 / 361อ่านอรรถกถา 16 / 725
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=16&A=3981&Z=4042
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=12&A=3409
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=12&A=3409
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๒๙  กันยายน  พ.ศ.  ๒๕๔๙
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :