บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
ข้อว่า นายํ ตุมฺหากํ กายนี้มิใช่ของพวกเธอ. อธิบายว่า เมื่ออัตตามีอยู่ ขึ้นชื่อว่าสิ่งที่เป็นอัตตาก็ย่อมมี. แต่อัตตานั่นแหละย่อมไม่มี เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า กายนี้มิใช่ของพวกเธอ. ข้อว่า นาปิ อญฺเญสํ ทั้งมิใช่ของผู้อื่น คือ อัตตาของคนอื่นชื่อว่าเป็นอื่นไป. เมื่ออัตตานั้นมีอยู่ ที่ชื่อว่าอัตตาอื่นก็พึงมี ทั้งอัตตาอื่นนั้นก็ไม่มี เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า ทั้งมิใช่ของคนอื่น. ข้อว่า ปุราณมิทํ ภิกฺขเว กมฺมํ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กรรมเก่านี้. อธิบายว่า กรรมนี้มิใช่กรรมเก่าเลย แต่กายนี้ บังเกิดเพราะกรรมเก่า เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสไว้อย่างนี้ด้วยปัจจยโวหาร. บทว่า อภิสงฺขตํ เป็นต้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสด้วยศัพท์เป็นเพศชายโดยอำนาจแห่งกรรมโวหารนั่นเอง. ก็ในคำว่า อภิสงฺขตํ เป็นต้นนี้ มีอธิบายดังนี้ บทว่า อภิสงฺขตํ ได้แก่ กายนี้พึงเห็นว่า อันปัจจัยแต่งแล้ว. บทว่า อภิสญฺเจตยิตํ ได้แก่ พึงทราบว่ามีเจตนาเป็นที่ตั้ง คือมีความจงใจเป็นมูล. บทว่า เวทนียํ ได้แก่ พึงทราบว่า เป็นที่ตั้งแห่งเวทนา. จบอรรถกถานตุมหสูตรที่ ๗ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา สังยุตตนิกาย นิทานวรรค อภิสมัยสังยุตต์ กฬารขัตติยวรรคที่ ๔ นตุมหากํสูตร จบ. |