บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
อรหันตวรรคที่ ๑ อรรถกถาธนัญชานีสูตรที่ ๑ บทว่า ธนญฺชานี ได้แก่ นางพราหมณี สกุลธนัญชานี. ได้ยินว่า นางพราหมณีมีสกุลสูง. เล่ากันมาว่า พวกพราหมณ์ บทว่า อุทานํ อุทาเนสิ ความว่า ถามว่า เพราะเหตุไร พราหมณีจึงได้เปล่งวาจา. ได้ยินว่า พราหมณ์สามีนั้นเป็นมิจฉาทิฏฐิ เมื่อนางกล่าวว่า พุทฺโธ ธมฺโม สงฺโฆ ก็ปิดหูเสีย เป็นคนกระด้างเสมือนตอไม้ตะเคียน. ส่วนพราหมณีเป็นอริยสาวกผู้โสดาบัน. พราหมณ์เมื่อให้ทาน ย่อมให้ข้าวปายาสมีน้ำน้อยแก่พราหมณ์ ๕๐๐ คน. พราหมณีได้ให้โภชนะมีรสต่างๆ แก่หมู่ภิกษุมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน. ในวันที่พราหมณ์ให้ทาน พราหมณี ต่อมาวันหนึ่ง พราหมณ์จึงปรึกษากับพราหมณี เชิญพราหมณ์ ๕๐๐ มาแล้ว กล่าวกะพราหมณีว่า แน่ะแม่จำเริญ พรุ่งนี้ พราหมณ์ ๕๐๐ คนจักบริโภคในเรือนของเรานะ. นางถามว่า ฉันจะช่วยอะไรได้บ้างละพราหมณ์. พราหมณ์กล่าวว่า ไม่มีกิจอะไรอื่นที่เจ้าจะต้องช่วยดอก คนเหล่าอื่นจักกระทำการหุงต้มและอังคาสทั้งหมด ข้อที่เจ้ายืนก็ดี นั่งก็ดี จามก็ดี ไอก็ดี ทำการนอบน้อมแก่สมณะโล้นนั้นว่า นโม พุทฺธสฺส นั้น พรุ่งนี้ เจ้าอย่าทำสิ่งนั้นสักวันหนึ่งเถิด ด้วยว่าพราหมณ์ทั้งหลายได้ยินดังนั้นแล้วจะไม่พอใจ เจ้าอย่าทำเราให้แตกจากพราหมณ์ทั้งหลายเลย. นางกล่าวว่า ท่านจะแตกจากพราหมณ์ก็ดี จากเทวดาก็ดี ส่วนฉันระลึกถึงพระศาสดา ไม่นอบน้อม ไม่สามารถที่จะอดกลั้นอยู่ได้. พราหมณ์กล่าวว่า แน่ะแม่มหาจำเริญ ก่อนอื่น เจ้าต้องพยายามปิดประตูบ้านในบ้าน ๑๐๐ ตระกูล เมื่อไม่สามารถจะปิดปากที่จะพึงปิดด้วยนิ้วทั้ง ๒ ชั่วเวลาที่พวกพราหมณ์บริโภค. พราหมณ์นั้นแม้พูดซ้ำซากอย่างนี้ ก็ไม่อาจห้ามได้ด้วยความรัก จึงถือเอาพระขรรค์ที่วางไว้บนหัวนอนกล่าวว่า แม่มหาจำเริญ เมื่อพราหมณ์นั่งประชุมกันพรุ่งนี้ ถ้าเจ้านมัสการ ได้กล่าวคาถาเหล่านี้ว่า ถ้าเจ้ายังอยู่ในเรือนของเรา ไม่ทำตามสิ่งที่ เราปรารถนา ยังจะพูดอยู่ว่า พุทฺโธ ธมฺโม สงฺโฆ ดังนี้ เราจะเอาพระขรรค์เล่มนี้บั่นเจ้า ตั้งแต่เท้าจนถึงศีรษะ เหมือนบั่นหน่อไม้. ส่วนพราหมณีผู้เป็นอริยสาวิกา ไม่มีความหวั่นไหวเหมือนแผ่นดิน ไม่มีความสะทกสะท้านเหมือนภูเขาสิเนรุ. เพราะฉะนั้น นางจึงกล่าวกะพราหมณ์นั้น อย่างนี้ว่า ท่านพราหมณ์ ถ้าท่านจะตัดอวัยวะน้อยใหญ่ ของเราก็ตาม เราจะไม่เว้นจากศาสนาของพระพุทธเจ้า ผู้ประเสริฐเลย ท่านไม่อาจห้ามเราจากพระชินเจ้าผู้ทรง คุณอันประเสริฐ เป็นที่พึ่งอาศัยของเราได้ดอก ท่านจะ ตัดหรือจะต้มเราก็ตามทีเถิด เราก็ชื่อว่าเป็นธิดาของ พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐแล้ว. ธนัญชานีพราหมณีขู่พราหมณ์ผู้คุกคาม จึงได้กล่าวคาถา ๕๐๐ คาถาด้วยประการฉะนี้. พราหมณ์ไม่อาจจับต้องหรือตีพราหมณี กล่าวว่า แม่มหาจำเริญ เจ้าจงทำตามที่เจ้าชอบใจเถิด แล้วก็โยนพระขรรค์ไปบนที่นอน. ในวันรุ่งขึ้น จึงให้สร้างเรือนฉาบด้วยของเขียวสด ให้ประดับด้วยข้าวตอกหม้อเต็มด้วยน้ำดอกไม้และของหอมเป็นต้นในที่นั้นๆ แล้วให้จัดข้าวปายาสมีน้ำน้อย ปรุงด้วยเนยข้นเนยใสน้ำตาลกรวดและน้ำผึ้ง แล้วให้บอกเวลาแก่พราหมณ์ ๕๐๐ คน. ฝ่ายพราหมณีเองอาบน้ำหอมแต่เช้าตรู่ นุ่งผ้าใหม่มีราคา ๑,๐๐๐ เอาผ้ามีราคา ๕๐๐ เฉวียงบ่า ประดับด้วยเครื่องประดับทุกอย่าง ถือทัพพีทอง อังคาสเลี้ยงดูพวกพราหมณ์ในโรงอาหาร น้อมนำอาหารไปให้พราหมณ์นั้นผู้นั่งในแถวเดียวกับพราหมณ์เหล่านั้น ลื่นลงที่กองไม้ที่เขาเก็บไว้ไม่เรียบร้อย. ทุกขเวทนาเกิดขึ้นแก่นาง เพราะกระแทกในการลื่นล้มลง. ขณะนั้น นางระลึกถึงพระทศพล แต่เพราะนางสมบูรณ์ด้วยสติ นางก็ไม่ทิ้งถาดข้าวปายาส ค่อยๆ วางลงที่พื้น ประคองอัญชลีเหนือเศียร ในท่ามกลางพราหมณ์ ๕๐๐ คน แล้วน้อมอัญชลีไปทางพระวิหารเชตวัน จึงได้เปล่งอุทานนี้. ก็เวลานั้น บรรดาพราหมณ์เหล่านั้น บางพวกบริโภคเสร็จแล้ว บางพวกกำลังบริโภค บางพวกพอลงมือ บางพวกเพียงวางโภชนะไว้ข้างหน้า พราหมณ์เหล่านั้นพอได้ยินเสียงนั้น เป็นเสมือนถูกค้อนเท่าภูเขาสิเนรุฟาดลงบนศีรษะ และเหมือนถูกหลาวแทงที่หู เสวยทุกข์โทมนัสโกรธว่า พวกเราถูกคนนอกลัทธินี้ลวงเราให้เข้าไปสู่เรือน จึงทิ้งก้อนข้าว คายสิ่งที่อมไว้ เป็นเหมือนกาเห็นธนู พลางด่าพราหมณ์พากันหลีกไปคนละทิศคนละทาง. พราหมณ์เห็นพวกพราหมณ์ต่างพากันแยกไปอย่างนั้น มองดูนางพราหมณีตั้งแต่ศีรษะ คิดว่า พวกเราเห็นภัยนี้แลจึงขอร้องนางมหาจำเริญตั้งแต่วันวาน ก็ไม่ได้ จึงด่านางพราหมณีโดยประการต่างๆ แล้วได้กล่าวกะนางมีอาทิว่า เอวเมว ปน ดังนี้. บทว่า อุปสงฺกมิ ความว่า พราหมณ์ไปด้วยคิดว่า พระสมณโคดมผู้อันชาวบ้านชาวนิคมและชาวแว่นแคว้นบูชาแล้ว ใครๆ ไม่อาจจะไปว่ากล่าว คุกคามอย่างใดๆ ได้ จำเราจักถามปัญหาสักข้อหนึ่ง จึงได้แต่งคาถาว่า กึสุ ฆตฺวา เป็นต้น แล้วคิดว่า ถ้าพระสมณโคดมจักกล่าวว่า เราชอบใจการฆ่าบุคคลชื่อโน้น เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจักข่มท่านว่า ท่านปรารถนาจะฆ่าเหล่าชนที่ท่านไม่ชอบใจ ท่านเกิดมาเพื่อจะฆ่าโลก ความเป็นสมณะของท่านจะมีประโยชน์อะไร ถ้าพระสมณโคดมจักกล่าวว่า เราไม่ชอบใจการฆ่าใครๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจะข่มท่านว่า ท่านไม่ปรารถนาจะฆ่ากิเลสมีราคะเป็นต้น เพราะเหตุไร ท่านจึงเป็นสมณะเที่ยวไป ดังนั้น ปัญหา ๒ เงื่อนนี้ พระสมณโคดมก็จะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ดังนี้แล้ว ก็หลีกไป. บทว่า สมฺโมทิ ความว่า พราหมณ์ไม่แสดงความโกรธ เพราะตนเป็นบัณฑิต จึงกล่าวถ้อยคำไพเราะชื่นชมกัน. ท่านกล่าวปัญหาไว้ในเทวตาสังยุต. แม้คำที่เหลือ ท่านกล่าวไว้พิสดารแล้วในหนหลังแล. จบอรรถกถาธนัญชานีสูตรที่ ๑ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา สังยุตตนิกาย สคาถวรรค พราหมณสังยุตต์ อรหันตวรรคที่ ๑ ธนัญชานีสูตรที่ ๑ จบ. |