บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
บทว่า นามแลโคตรย่อมไม่ทรุดโทรม ความว่า นามและโคตรของพระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีต จนถึงทุกวันนี้ บัณฑิตยังกล่าวอยู่ เพราะฉะนั้น นามและโคตรนั้น จึงตรัสว่า ย่อมไม่ทรุดโทรม. อนึ่ง โบราณาจารย์กล่าวว่า เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ นามและโคตรนั้นจักไม่ปรากฏ แต่สภาวะที่ทรุดโทรมย่อมไม่มีเลย. บทว่า อาลสฺยํ แปลว่า ความเกียจคร้าน คือว่าด้วยความเกียจคร้านอันใด ดุจบุคคลผู้ยืนอยู่ในที่อันตนยืนอยู่นั่นแหละ นั่งแล้วก็นั่งอยู่นั่นแหละ ถึงผมทั้งหลายอันตั้งอยู่ในที่สูงเปียกชุ่มอยู่ก็ไม่กระทำ (ไม่สนใจทำ). บทว่า ปมาโท ความว่า ชื่อว่าความประมาท เพราะหลับหรือด้วยอำนาจแห่งกิเลส. บทว่า อนุฏฺฐานํ ได้แก่ ไม่มีความเพียรเป็นเครื่องทำการงานในเวลาแห่งการงาน. บทว่า อสญฺญโม คือว่า ไม่มีความระวังศีล มีอาจาระอันทอดทิ้งเสียแล้ว. บทว่า นิทฺทา อธิบายว่า เมื่อเดินก็ดี ยืนอยู่ก็ดี นั่งแล้วก็ดี ย่อมหลับ เพราะความเป็นผู้มากด้วยความหลับ ก็จะป่วยกล่าวไปไยถึงการนอนเล่า. บทว่า ตนฺที ได้แก่ ความเกียจคร้านอันจรมาด้วยอำนาจแห่งความกระหายจัดเป็นต้น. บทว่า เต นิทฺเท แปลว่า ช่องเหล่านั้น ได้แก่ช่องทั้ง ๖. บทว่า สพฺพโส แปลว่า โดยประการทั้งปวง. บทว่า ตํ แปลว่า สักว่าเป็นนิบาต. บทว่า วิวชฺชเย แปลว่า พึงเว้น คือพึงละเสีย. จบอรรถกถานชีรติสูตรที่ ๖ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เทวตาสังยุต ฆัตวาวรรคที่ ๘ นชีรติสูตรที่ ๖ จบ. |