บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
บทว่า ธมฺมฏฺฐา สีลสมฺปนฺนา แปลว่า เทวดาย่อมทูลถามว่า ชนพวกไหนตั้งอยู่ในธรรมสมบูรณ์ด้วยศีล ดังนี้. พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะทรงแสดงปัญหานี้โดยวัตถุก่อน จึงตรัสว่า อารามโรปา เป็นอาทิ. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อารามโรปา แปลว่า ปลูกสวนดอกไม้และสวนผลไม้. บทว่า วนโรปา อธิบายว่า ทำการล้อมเขตแดนในป่าธรรมชาติที่เกิดขึ้นเองแล้ว ทำเจดีย์ ปลูกต้นโพธิ์ ทำที่จงกรม ทำมณฑป กุฏิ ที่หลีกเร้นและที่พักในเวลากลางวันและกลางคืน. เมื่อบุคคลปลูกต้นไม้อาศัยร่มเงาให้อาศัยอยู่ ก็ชื่อว่าการปลูกหมู่ไม้. บทว่า เสตุการกา ได้แก่ ชนทั้งหลายสร้างสะพานในที่อันไม่เสมอกัน หรือย่อมมอบเรือให้ไป. บทว่า ปปํ ได้แก่ โรงที่ให้น้ำดื่ม. บทว่า อุทปานํ ได้แก่ ที่ใดที่หนึ่งมีสระโบกขรณีและบ่อที่มีน้ำเป็นต้น. บทว่า อปสฺสยํ ได้แก่ บ้านที่พักอาศัย. พระบาลีว่า อุปาสยํ ก็มี แปลว่า ให้เข้าไปอาศัย. บทว่า สทา ปุญฺญํ ปวฑฺฒติ อธิบายว่า เมื่อไม่ตรึกถึงอกุศลวิตก หรือเมื่อไม่หลับ บุญย่อมเจริญ. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า บุญย่อมเจริญทุกเมื่อ ดังนี้ ทรงหมายเอาเนื้อความนี้ว่า ก็ในกาลใดย่อมระลึกถึง ในกาลนั้น บุญย่อมเจริญ ดังนี้. บทว่า ธมฺมฏฺฐา สีลสมฺปนฺนา อธิบายว่า ชื่อว่าตั้งอยู่แล้วในธรรม เพราะความที่บุคคลนั้นดำรงอยู่ในธรรม ชื่อว่าสมบูรณ์แล้วด้วยศีล เพราะความที่บุคคลนั้นถึงพร้อมแล้วด้วยศีลแม้นั้น. อีกอย่างหนึ่ง เมื่อบุคคลทั้งหลายทำบุญทั้งหลายเห็นปานนี้ ชื่อว่าย่อมบำเพ็ญกุศลธรรมสิบ คือว่าบุคคลเหล่านั้นชื่อว่าตั้งอยู่แล้วในธรรม เพราะความที่บุคคลเหล่านั้นตั้งอยู่ในกุศลธรรมสิบเหล่านั้น และชื่อว่าสมบูรณ์แล้วด้วยศีล เพราะความที่บุคคลเหล่านั้นถึงพร้อมแล้วด้วยศีลนั้นนั่นแหละ ดังนี้แล. จบอรรถกถาวนโรปสูตรที่ ๗ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เทวตาสังยุต อาทิตตวรรคที่ ๕ วนโรปสูตรที่ ๗ จบ. |