พิมพ์หน้านี้ | ส่งหน้านี้ให้เพื่อน |
 


84000.org
 
       
 

84000.org::...

10-นางนกุลมารดาคหปตานี
เอตทะคคะในฝ่ายผู้มีความคุ้นเคยในพระศาสดา

นางนกุลมารดา เกิดในตระกูลเศรษฐีในเมืองสุงสุมารคิรี แคว้นภัคคะ เมื่อเจริญวัย
ได้แต่งงานอยู่ครองเรือนตามฆราวาสวิสัย มีความสุขตามสมควรแก่ฐานะเมื่อบิดามารดาล่วง
หลับไปแล้วได้ครอบครองดูแลทรัพย์สมบัติสืบไป

  • กล่าวตู่ว่าพระพุทธองค์เป็นลูก
    ครั้งหนึ่งพระผู้มีพระภาคอันภิกษุสงฆ์แวดล้อมติตามเสด็จจาริกไปถึงพระนคร
    สุงสุมารคิรี แล้วเสด็จเข้าประทับ ณ เภสกลาวัน
    ขณะนั้น นกุลเศรษฐีและภริยาพร้อมด้วยเหล่าชาวเมืองสุงสุมารคิรีได้พากันไปเฝ้าพระ
    ผู้มีพระภาคะเจ้า ณ ที่ประทับ ทันทีที่เศรษฐีและภริยาได้แลเห็นพระผู้มีพระภาคเท่านั้นความรัก
    ประหนึ่งว่าพระพุทธองค์เป็นบุตรในอุทรของตนก็เกิดขึ้นสองสามีภริยาหมอบลงแทบพระยุคล
    บาทของพระบรมศาสดาแล้วกราบทูลว่า
    “ลูกเอ๋ย เจ้าทิ้งพ่อแม่ไปสิ้นกาลช้านาน บัดนี้เจ้าไปอยู่ ณ ที่ใดมา ?”
    จากอาการกิริยาและคำพูดของเศรษฐีและภรรยานั้น สร้างความสับสนฉงนสนเท่ห์แก่
    ภิกษุสงฆ์และพุทธบริษัทในสมาคมนั้น เพราะต่างก็ทราบดีว่าพระพุทธองค์เสด็จออกบรรพชา
    จากศากยสกุล กรุงกบิลพัสดุ์ และชาวเมืองสุงสุมารคิรี ก็ทราบดีว่าเศรษฐีสองสามีภรรยามี
    ญาตร่วมสายโลหิตและทายาทกี่คน เหตุไฉนท่านจึงกล่าวตู่ว่าพระผู้มีพระภาคเป็นบุตรของตน
    แม้พระบรมศาสดา ก็มิได้ตรัสห้ามประณามเศรษฐีสองสามีภรรยานั้นแต่ประการใด
    เลย ด้วยเศรษฐีทั้งสองมีสติเต็มไปด้วยความรักและปีติสุดที่จะยับยั้งได้ พระพุทธองค์ทรงรอ
    โอกาสเมื่อพวกเขากลับได้สติวางใจเป็นกลางแล้ว จึงทรงแสดงธรรมตามสมควรแก่อัธยาศัย
    ยังบุคคลทั้งสองให้ดำรงอยู่ในพระโสดาปัตติผล แล้วทรงยกเรื่องในอดีตชาติ มาประกาศใน
    ท่ามกลางพุทธบริษัทให้ทราบทั่วกันว่า
    “ในอดีตชาติ เศรษฐีสองสามีภรรยานี้เคยเป็นบิดามารดาของตถาคต ๕๐๐ ชาติ เคย
    เป็นปู่ เป็นย่า ๕๐๐ ชาติ เคยเป็นลุง เป็นป้า ๕๐๐ ชาติ เคยเป็นอาเป็นน้า ๕๐๐ ชาติ ดังนั้นเพราะ
    ความรักความผูกพันที่ติดตามมาตลอดช้านานนี้พอได้เห็นตถาคตจึงสุดที่จะอดกลั้นความรัก
    นั้นไว้ได้”
    พระบรมศาสดา ครั้นได้ประทานสุขสมบัติในเทวโลกและสุขสมบัติในอริยภูมิแก่ชาว
    สุงสุมารคิรีแล้ว เสด็จจาริกไปยังคามนิคมอื่น ๆ โดยลำดับ

  • แม้ทางใจก็ไม่เคยคิดชั่ว
    ครั้นกาลต่อมา พระบรมศาสดาพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์แวดล้อมตามเสด็จมายังพระนคร
    สุงสุมารคิรีอีก เศรษฐีและภรรยาซึ่งทั้งสองเข้าสู่วัยชราภาพแล้ว ได้ทราบข่าวการเสด็จมาของ
    พระผู้มีพระภาค จึงพากันไปเฝ้ากราบวายบังคมด้วยเบญจางคประดิษฐ์ ได้กราบอาราธนาเพื่อ
    เสวยพระกระยาหารในวันรุ่งขึ้น พระพุทธองค์ทรงรับด้วยดุษณีภาพ เมื่อได้เวลาทรงพาภิกษุ
    สงฆ์เสด็จไปยังบ้านของนกุลเศรษฐี ซึ่งสองสามีภรรยานั้นได้อังคาสถวายภัตตาหารแด่พระ
    พุทธองค์พร้อมภิกษุสงฆ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พากันเข้าไปนั่งใกล้ ๆ ณ ที่อันสมควรแก่ตนนาง
    นกุลมารดาคหปตานีได้กราบทูลว่า
    “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์กับนกุลบิดาคฤหบดีนี้ แต่งงานกันมาตั้งแต่ครั้งอยู่
    ในวัยหนุ่มสาว ตราบจนบัดนี้ ข้าพระองค์มิได้รู้สึกเลยว่า นกุลบิดาคฤหบดีผู้สามีจะนอกใจแม้
    ทางใจ ดังนั้น เขาจะนอกใจทางกายได้อย่างไร ข้าพระองค์ปรรถนาจะพบกันและกัน ทั้งใน
    ปัจจุบันทั้งในภายภาคหน้าพระเจ้าข้า”
    พระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ ฯ นครสุงสุมารคิรี ตามสมคารแก่พระอัธยาศัยแล้วทรงพา
    หมู่ภิกษุสงฆ์เสด็จจาริกโปรดเวไนยสัตว์ ตามคามนิคมชนบทอื่น ๆ โดยลำดับ
    ต่อมาพระพุทธองค์ขณะประทับ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงสถาปนา
    นกุลมารดาคหปตานี ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นผู้เลิศกว่าอุบาสิกาทั้งหลาย ในฝ่าย
    ผู้มีความคุ้นเคยในพระศาสดา

84000.org...::

สารบัญหลักหมวดอุบาสิกา
| 01 | 02 | 03 | 04 | 05 | 06 | 07 | 08 | 09 | 10 |

 
     

 

| หน้าแรก | ส่งเมลให้webmaster | เว็บบอร์ด |